วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2563

ใบไม้สีทอง


➤ใบไม้สีทอง



ภาษาถิ่นในจังหวัดนราธิวาส

➤ภาษาถิ่นในจังหวัดนราธิวาส



➤ที่เที่ยวจังหวัดนราธิวาส



เเนะนำจังหวัดนราธิวาส


➤เเนะนำจังหวัดนราธิวาส



เที่ยวสุดฮิที่ตในจังหวัดนราธิวาส

เที่ยวสุดฮิที่ตในจังหวัดนราธิวาส
เจดีย์สิริมหามายา (Siri Maya Pagoda)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมืองนราธิวาส
เจดีย์สิริมหามายาซึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังเหนือซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศ มีเจดีย์รายประดับอยู่ภายในประดิษฐานพระพรหมบนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ เนินเขาถัดไปอีกลูกหนึ่งเป็นที่ตั้งของอุโบสถ ผนังด้านนอกทั้งสี่ด้านประดับกระเบื้องดินเผาแกะสลัก ด้านหลังเป็นรูปช้างหมอบถวายดอกบัว หน้าบันไดเป็นรูปนักรบมีเทวดาถือคนโทถวาย คนท้องถิ่นเป็นผู้สร้างเจดีย์มอบให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ศาสนสถาน (Religious Site)
มัสยิดกลางนราธิวาส (New Central Mosque)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
มัสยิดตั้งอยู่ที่บ้านบางนราเพียงก่อนที่หาดนราทัศน์เป็นมัสยิดกลางประจำจังหวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2524 เป็นสถานที่ศาสนาเคารพอย่างสูงโดยชาวไทยมุสลิม สร้างเป็นอาคาร 3 ชั้น แบบอาหรับ ชั้นล่างจะเป็นห้องประชุมใหญ่ ห้องทำละหมาดอยู่ 2 ชั้นบน ยอดเป็นโดมขนาดใหญ่ มีหอสูงสำหรับส่งสัญญาณอาซานเรียกชาวมุสลิมเข้ามาละหมาดพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ในวัดเขากง 6 กิโลเมตรจากตัวเมือง อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอระแงะ เมืองนราธิวาส เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา องค์พระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กประดับด้วยโมเสกสีทอง หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร จัดเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ โรงแรมใน นราธิวาส
สถานที่ตั้ง : อำเภอบาเจาะ
ตั้งอยู่ที่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 42 แล้วแยกที่บ้านบือราแง คนในท้องถิ่นเชื่อว่านายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี เป็นครูศาสนาเป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2167 มัสยิด 300 ปี
ปัจจุบันมัสยิดนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น นอกจากนั้นหมู่บ้านตะโละมาเนาะในอดีตยังเป็นแหล่งผลิตคัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ ด้านข้างมัสยิดมีสุสานชาวมุสลิม ถ้าเป็นของผู้ชายหินที่ประดับอยู่บนหลุมฝังศพจะมีลักษณะกลม ถ้าเป็นของผู้หญิงจะเป็นหินเพียงซีกเดียว
สถานที่ตั้ง : อำเภอบาเจาะ
ตั้งอยู่ในอำเภอบาเจาะ บนเส้นทางหลวงบาเจาะ – รามัญ วัดเป็นที่รู้จักกันดีจากชื่อเสียงของอดีตเจ้าอาวาสและเกจิอาจารย์ชื่อดังหลวงพ่อแดงที่มรณะภาพไปในปี พ.ศ 2522 รวมอายุได้ 90 ปี ภายหลังจากที่ท่านได้มรณะภาพไปแล้ว ศพของท่านยังไม่เน่าเปื่อย ประชาชนจึงได้เกิดความศรัทธาและนำศพของท่านไปบรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้เป็นที่สักการะบูชาของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
วัดเชิงเขา สถานที่ตั้ง : อำเภอตากใบ
ท่านพระครูโอภาสพุทธคุณ (พุด) เป็นผู้เริ่มก่อตั้งวัดนี้ขึ้นและต้องไปขอที่ดินจากพระยากลันตันเพื่อที่จะสร้างวัด เมื่อปี พ.ศ. 2416 สมัยนั้นดินแดนตากใบยังเป็นของรัฐกลันตันอยู่ วัดนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีแบ่งแยกดินแดนตากใบประเทศสยามกับประเทศมลายู ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษในขณะนั้น (สมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2452) โดยฝ่ายไทยได้มีการยกเอาพระพุทธศาสนา วัดและศิลปะในวัดเป็นเครื่องต่อรองการแบ่งปันเขตแดน อังกฤษจึงยอมรับเหตุผล โดยให้นำเอาแม่น้ำโกลกตรงบริเวณที่ไหลผ่านเมืองตากใบ (แม่น้ำตากใบ) เป็นเส้นแบ่งเขตแดน วัดนี้จึงรู้จักในอีกนามหนึ่งว่า "วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย"
การเดินทาง จากตัวเมืองออกไปตามเส้นทางสาย นราธิวาส-ตากใบ (ทางหลวงหมายเลข 4085) ถึงสี่แยกตลาดอำเภอตากใบแล้วเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 100 เมตร จะถึงปากทางเข้าวัด
สถานที่ตั้ง : อำเภอสุไหงโก-ลก
ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ ตั้งอยู่ที่ซอยภูธร ถนนเจริญเขต ในเขตเทศบาลตำบลสุไหงโกลก เดิมทีเจ้าแม่โต๊ะโมะนี้ประดิษฐานอยู่ที่บ้านโต๊ะโมะ อำเภอสุคิริน ต่อมาชาวบ้านได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่อำเภอสุไหงโกลก เป็นที่นับถือของชาวสุไหงโกลกและชาวจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งชาวจีนในประเทศมาเลเซียเป็นอย่างมากทุกๆ ปี จะมีการจัดงานประเพณีประจำปีที่บริเวณศาลเจ้า ตรงกับวันที่ 23 เดือนสามของจีน (ประมาณเดือนเมษายน) ในงานจะมีกิจกรรมมากมายเช่น มีการจัดขบวนแห่เจ้าแม่ ขบวนสิงโต ขบวนเองกอ ขบวนกลองยาวและยังมีพิธีกรรมเดินลุยไฟด้วย
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ (Thaksin Ratchaniwet Palace)
สถานที่ตั้ง : อำเภอตากใบ
พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนเขาตันหยงมัส ตำบลกะลุวอเหนือ ด้านริมทะเลใกล้กับอ่าวมะนาว ห่างจากตัวจังหวัดนราธิวาสตามทางหลวงหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) โปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2516 ภายในเขตพระราชฐานประกอบด้วยพระตำหนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถและของพระบรมวงศานุวงศ์ ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทำให้มีบรรยากาศร่มรื่น ยังมีศูนย์ศิลปาชีพซึ่งเป็นแหล่งฝึกงานเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิกรวมทั้งจำหน่ายด้วย เมื่อพระบรมวงศานุวงศ์ไม่ได้พำนักในพระตำหนักฯ
เปิดให้เข้าชม: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. เว้นเฉพาะช่วงที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรมเท่านั้น ซึ่งปกติจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม การเดินทางสามารถนั่งรถโดยสารประจำทางเส้นที่ไปอำเภอตากใบและลงที่หน้าพระตำหนักได้
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน โละจูด (Lochut Folk Museum)
สถานที่ตั้ง : อำเภอแว้ง
พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ 11 กิโลเมตรจากสำนักงานแขวงอำเภอ หมู่บ้านซูแก พิพิธภัณฑ์รวบรวมศิลปวัตถุโบราณมีการขุดพบในพื้นที่ และยังเป็นที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณ เช่น มีดสไตล์มาเลย์และเครื่องปั้นดินเผาอย่างดีหลายรายการมีอายุอย่างน้อย 1,000 ปีขึ้นไป
ตลาด (Market)
ด่านตากใบ (Taba Checkpoint or Tak Bai Checkpoint)
สถานที่ตั้ง : อำเภอตากใบ
ตั้งอยู่ที่บ้านตาบา ตำบลเจ๊ะเห อยู่ห่างจากตัวอำเภอตากใบราว 3 กิโลเมตร ตามเส้นทางหมายเลข 4084 (อำเภอเมือง-อำเภอตากใบ) เป็นช่องทางการท่องเที่ยวและค้าขายระหว่างประเทศไทย - มาเลเซีย อีกแห่งหนึ่งนอกจากด่านสุไหงโกลก การข้ามพรมแดนเป็นไปได้โดยเรือหางยาวหรือแพขนานยนต์ก็ได้ (จะอยู่กันคนละท่า) ออกทุก 15 นาที วิ่งระหว่างเวลา 6.30-17.15 น.
ด่านสุไหงโกลก (Su-ngai Kolok Checkpoint)
สถานที่ตั้ง : อำเภอสุไหงโก-ลก
เป็นด่านการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และยังเดินทางข้ามไปมาได้สะดวกทั้งคนไทยและคนมาเลย์ มีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างประเทศ เปิดตั้งแต่ 05.00-21.00 น. ชาวไทยมักข้ามไปยังฝั่งรันตูปันยังเพื่อซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ของกินเล่น ส่วนคนมาเลย์จะข้ามมาซื้ออาหารและผลไม้
อุทยานสวนอ่าวมะนาว (Ao Manao Forest Park)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือหาดยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เชื่อมต่อเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มโดยภูมิประเทศเป็นหิน ขอบเขตที่หาดอ่าวมะนาวที่พระราชตำหนักทักษิณราชนิเวศอยู่ทางใต้ ชายหาดเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับสวนรุกขชาติ ที่เต็มไปด้วยต้นสน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาดระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้งเช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (ผลมีหน้าตาคล้ายสับปะรด) สามารถพบได้ในพื้นที่นี้ ที่พักส่วนตัวบริเวณใกล้เคียงมีการเปิดบริการพักค้างคืนมีบ้านพักของเอกชนในบริเวณใกล้เคียงให้บริการ

การเดินทาง จากอำเภอเมืองนราธิวาส ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) ประมาณ 3 กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก 3 กิโลเมตร
พระพุทธอุทยานเขากง (Khao Kong Buddhist Park)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ครอบคลุมพื้นที่ 142 ไร่ (56.8 ไร่) ในตำบลลำภู ประมาณ 9 กิโลเมตรจากตัวเมืองบนเส้นทางนราธิวาส - ระแงะ (ทางหลวงหมายเลข 4055) สถานที่สำคัญในวัดเขากงและพระพุทธรูปทักษิณมิ่งมงคลสีทองปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา เป็นศิลปะสกุลช่างอินเดียตอนใต้ เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2509 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2512 หน้าตักกว้าง 17 เมตร ความสูงวัดจากพระเกศบัวตูมถึงบัวใต้พระเพลา 24 เมตร จัดเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้
อุทยานแห่งชาติเทือกเขาบูโดและเทือกเขาสุไหงปาดี (Budo-Su-ngai Padi Mountain Range National Park)
สถานที่ตั้ง : อำเภอบาเจาะ
พื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติฯ เป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาสันกาลาคีรีที่แบ่งเขตแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ส่วนใหญ่เคยเป็นที่อาศัยอยู่โดยกองโจร ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีผู้ใดเข้ามาสัมผัสความมหัศจรรย์ของผืนป่าดงดิบแห่งนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ในปี พ.ศ. 2517 กรมป่าไม้จึงจัดตั้งอุทยานน้ำตกปาโจและกลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 294 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของนราธิวาส ยะลาและปัตตานี
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา (Hala-Bala Wildlife Reserve)
สถานที่ตั้ง : อำเภอแว้ง
ผู้รักธรรมชาติไม่ควรพลาด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา - บาลา เป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า แห่งใหม่ของประเทศไทย จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ 2539 อยู่ใกล้ชายแดนไทยมาเลเซีย ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 433.16 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ทิวเขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลาและอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติได้จะเป็นป่าบาลาเท่านั้น ป่าบาลามีพื้นที่ครอบคลุม อำเภอแว้งและอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
ชายหาดนราทัศน์ (Naratat Beach)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ชายหาดนราทัศน์เป็นชายหาดธรรมชาติ มีหาดทรายสีขาวงดงามยาว 5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้บริเวณปากแม่น้ำบางนรา ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือกอและที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีด้วย บริเวณรอบๆชายหาดเต็มไปด้วยต้นสนทะเลให้ร่มเงา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับชการมากผักผ่อนหย่อนใจ ร้านอาหารริมหาดบริการอาหารใต้หลายแบบพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และที่มีหมู่บ้านชาวประมงอยู่โดยตามริมแม่น้ำบางนรา และบริเวณเวิ้งอ่าวมีเรือกอและของงชาวประมงจอดยู่มากมาย
ในวันศุกร์ชาวบ้านจะไปสวดมนต์และเป็นวันหยุด อาจจะเกิดความไม่สะดวกในการซื้อของในวันหยุด หมู่บ้านตั้งอยู่ที่ตำบลโคกเตียนประมาณ 16 กิโลเมตรจากเมืองบนทางหลวงหมายเลข 4136 (นราธิวาส - บ้านทอน)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือหาดยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เชื่อมต่อเป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มโดยภูมิประเทศเป็นหิน ขอบเขตที่หาดอ่าวมะนาวที่พระราชตำหนักทักษิณราชนิเวศอยู่ทางใต้ ชายหาดเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับสวนรุกขชาติเต็มไปด้วยต้นสน นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้งเช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (ผลมีหน้าตาคล้ายสับปะรด) สามารถพบได้ในพื้นที่นี้ ที่พักส่วนตัวบริเวณใกล้เคียงมีการเปิดบริการพักค้างคืนมีบ้านพักของเอกชนในบริเวณใกล้เคียงให้บริการ เส้นทางหลวงหมายเลข 4084 (นราธิวาส-ตากใบ) ประมาณ 3 กิโลเมตรและมีทางแยกไปสู่หาดอีก 3 กิโลเมตร
น้ำตกปาโจ (Bajo Waterfall)
สถานที่ตั้ง : อำเภอบาเจาะ
น้ำตกนี้สูง 60 เมตรนับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดและสวยงามแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตั้งอยู่1 กิโลเมตรจากอำเภอบาเจาะ หรือ จากตัวจังหวัดนราธิวาส 26 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 42 ไปยังอำเภอบาเจาะถึงบริเวณสี่แยกเข้าตัวอำเภอ ให้เลี้ยวเข้าไปตามถนนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี
สถานที่ตั้ง : อำเภอสุไหงปาดี
น้ำตกฉัตรวาริน อยู่ที่ตำบลโต๊ะเด็ง ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข 4056 ถึงโรงพยาบาลสุไหงปาดีแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนอีก 6 กิโลเมตร ทางเข้าลาดยางตลอด อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำตลอดทั้งปี สภาพแวดล้อมร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด
ป่าพรุโต๊ะแดงสถานที่ตั้ง : อำเภอสุไหงโกลก
อยู่ห่างจาก อำเภอสุไหงโกลก บนถนนไปตากใบ ประมาณ 19 กิโลเมตร ป่าพรุโต๊ะแดงเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 เอเคอร์ เป็นเขตป่าพรุที่หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยและที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน พื้นที่ยังคงอุดมไปด้วยพืชสัตว์ ป่าพรุสิรินธร เป็นหนึ่งในจำนวนป่าพรุที่เหลืออยู่ในประเทศไทย มีสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์หลายชนิดในป่านี้ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากกับการศึกษา และดำเนินงานวิจัยวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ พันธุ์ไม้ที่พบในป่าพรุมีกว่า 400 ชนิดและสัตว์ป่าที่พบกว่า 200 ชนิด เช่น ค่าง ชะมด หมูป่า หมีขอ แมวป่าหัวแบน (ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองที่หายากอีกชนิดหนึ่งของไทย) หนูสิงคโปร์ พบค่อนข้างยากในคาบสมุทรมลายูแต่ชุกชุมมากบนเกาะสิงคโปร์ สำหรับประเทศไทยพบในที่ชุกชุมในป่าพรุโต๊ะแดงนี้เท่านั้น
น้ำตกสิรินธร (Sirindhorn Waterfall)
สถานที่ตั้ง : อำเภอแว้ง
น้ำตกสิรินธร ลักษณะโดยทั่วไปไม่ใช่น้ำที่ตกมาจากผาสูง หากแต่เป็นลักษณะธารที่ค่อยๆ ลาดไหลมาจากแนวป่าสูง มีแอ่งน้ำลานหิน นั่งพักผ่อนได้ ธารน้ำตกจะไหลไปรวมที่คลองอัยกาดิง มักจะมีคนท้องถิ่นเข้ามาเที่ยว สิ่งที่ควรชมนอกเหนือจากน้ำตกก็คือ โครงการสำรวจและรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับป่าภาคใต้ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีการรวบรวมไว้กว่า 200 ชนิด โดยจัดปลูกพรรณไม้ต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ตามสภาพธรรมชาติและมีป้ายบอกชื่อ รวมทั้งประโยชน์ใช้สอยติดไว้ให้ศึกษา มีความน่าสนใจทั้งในแง่พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน และการนำมาเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อพัฒนาเป็นไม้ประดับและพืชเศรษฐกิจ ผู้สนใจเข้าชมได้ระหว่างเวลา 08.30-16.00 น.
หมู่บ้านทอน(Banthon Village)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
โบราณหมู่บ้านประมงไทยมุสลิมบ้านทอน ระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองตามเส้นทางนราธิวาส-บ้านทอน (ทางหลวง 4136) หมู่บ้านเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับศูนย์แหล่งผลิตเรือกอและทั้งของจริงและจำลอง เรือกอและจำลองมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่น ซึ่งถือว่าเป็นรูปสวยงามของศิลปะท้องถิ่นและเป็นเยาวชนและเด็กที่มีอายุตั้งแต่13 ปีขึ้นไป
หมู่บ้านยะกัง (Ban Yakang)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
เป็นชุมชนเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งนราธิวาสยังเป็นหมู่บ้านบางนรา ปัจจุบันหมู่บ้านเป็นศูนย์ผลิตผ้าบาติกหลักที่มีความโดดเด่นที่ทำแบบดั้งเดิมที่มีการออกแบบที่สวยงามและสีสันน่าสนใจ เป็นผ้าอเนกประสงค์ที่เป็นที่นิยมในทั้งหมู่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว


ผลไม้ประจำจังหวัดนราธิวาส

ผลไม้ประจำจังหวัดนราธิวาส



ลองกองซีโป

“ลองกองซีโป” ของดีเมืองนราธิวาส พร้อมเชิญชวนชิม


        ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน” คือ คำขวัญประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากจะหมายถึงสถานที่ตั้งของพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ประชาชนเคร่งครัดในศาสนา และการร่ำรวยความงามตามธรรมชาติแล้ว ยังจะบ่งบอกว่า ที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดผลไม้รสหวาน หอมและเย็นตามธรรมชาติ ที่มีชื่อมากที่สุด นั่นก็คือ “ลองกองซีโป” ในอำเภอระแงะ นั่นเอง
       

       จังหวัดนราธิวาส เป็นจังหวัดที่มีการปลูกลองกองมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นถิ่นกำเนิดลองกองคุณภาพดีที่มีชื่อเสียง คือ “ลองกองซีโป” ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ เพราะมีคุณสมบัติเด่น คือ เมื่อผลสุกจะมีรสชาติหวานหอม โดยลองกองต้นแรกที่ปลูกอยู่ที่บ้านซีโป ปัจจุบันยังคงยืนต้นอยู่ แต่ไม่มีใบ มีเพียงลำต้นอย่างเดียวเท่านั้น และมีอายุกว่าร้อยปี
 

“ลองกองซีโป” ของดีเมืองนราธิวาส พร้อมเชิญชวนชิม

       
       ต่อมา เกษตรกรในพื้นที่ได้มีการนำลองกองซีโปมาปลูกที่บ้านตันหยงมัส ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภอระแงะ และเนื่องจากการขนส่งลองกองในสมัยก่อนนิยมส่งทางรถไฟ ผู้บริโภคจึงรู้จักลองกองรสชาติดีว่า มาจากตันหยงมัส จึงเรียกกันว่า ลองกองตันหยงมัส แต่แหล่งผลิตสำคัญยังคงอยู่ที่บ้านซีโป ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ
       ลองกอง (longkong) เป็นพันธุ์ไม้ชนิดเดียวกับลางสาด มีเปลือกหนา และไม่มียางเหมือนลางสาด มีเนื้อน้อยกว่า แต่มีรสหวานกว่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lansium domesticum Corr ซึ่งพืชที่อยู่ในชนิดเดียวกันนี้คือ ดูกู (duku) ส่วนลังสาด (ลางสาด) แยกเป็นชนิดหนึ่งต่างหาก โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า A. Domesticum Pelleg ส่วนชื่อ ลองกอง มาจากภาษายาวีว่า ดอกอง 
                                                                    “ลองกองซีโป” ของดีเมืองนราธิวาส พร้อมเชิญชวนชิม

                              ลองกอง ดูกู และลางสาด เป็นไม้ผลในสกุลเดียวกัน ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
      
       1.กลุ่มลองกอง เป็นกลุ่มที่ผลผลิตมีคุณภาพดีที่สุด มีเมล็ดน้อย หรืออาจจะไม่มีเมล็ดเลย ใบมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก คือ มีสีเขียวเข้ม และมีร่องใบลึก ทำให้ดูเหมือนกับว่า ใบหยักเป็นคลื่น ซึ่งกลุ่มนี้แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิด คือ
      
       - ลองกองแห้ง ผลสุกจะมีเนื้อใสเป็นแก้ว เนื้อแห้ง หวาน และมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ส่วนเปลือกหนามีสีเหลืองคล้ำ และไม่มียาง
       - ลองกองน้ำ ผลสุกจะมีเนื้อค่อนข้างฉ่ำน้ำ สีเปลือกเหลืองสว่างกว่า
       - ลองกองปาลาแม หรือลองกองแปร์แมร์ ผลสุกจะมีเนื้อนิ่ม กลิ่นไม่หอมเหมือนลองกองน้ำ เปลือกบางและมียางบ้าง 
      
       2.กลุ่มดูกู หรือลูกู ลักษณะใบค่อนข้างหนา และมีสีเขียวเข้มคล้ายลองกอง แต่หยักเป็นคลื่นน้อยกว่า ขนาดผลค่อนข้างใหญ่ และมีเปลือกหนากว่าลองกอง มีเมล็ดมาก และมีเนื้อฉ่ำน้ำ ที่พบมี 2 ชนิด คือ
      
       - ดูกูแปร์แมร์ มีผลค่อนข้างรี ก้นผลแหลม ผิวย่นเล็กน้อย
       - ดูกูน้ำ มีผลค่อนข้างกลม มีผิวสดใสกว่าดูกูแปร์แมร์
      
       3.ลางสาด ใบบางกว่าลองกอง คลื่นใบไม่เด่นชัด ผลเล็กกว่าลองกอง ผลสุกมีสีเหลืองนวล เปลือกบางมียางเหนียว มีเมล็ด 2-3 เมล็ดต่อผล 
       ลองกองเป็นไม้ผลเศรษฐกิจเขตร้อนชื้น ในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่สามารถผลิตลองกองที่มีคุณภาพดีที่สุด
“ลองกองซีโป” ของดีเมืองนราธิวาส พร้อมเชิญชวนชิม

       
       เนื่องจากลองกองมีความต้องการสภาพพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้น มีความชื้นในอากาศสูง พื้นที่การปลูกลองกองจึงถูกจำกัดโดยสภาพแวดล้อม ผลผลิตของลองกองจึงมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ราคาผลผลิตจึงสูง ทำให้การปลูกลองกอง ได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการปลูกไม้ผลอื่นๆ หลายชนิด
       โดยผลของลองกอง จะมีลักษณะเป็นช่อสวยงาม เปลือกผลนุ่มคล้ายกำมะหยี่ เนื้อล่อนออกจากเปลือกได้ทั้งผล เมล็ดน้อย หรือไม่มีเลย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานชื่นใจ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินบี และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นไข้ ตัวร้อน ลดอาการร้อนในช่องปาก จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งตลาดภายใน และตลาดต่างประเทศ 
                                                              “ลองกองซีโป” ของดีเมืองนราธิวาส พร้อมเชิญชวนชิม

       แต่ในปีนี้ ปรากฏว่า ลองกองมีราคาตกต่ำมาก โดยมีราคารับซื้อหน้าสวนประมาณ 5-10 บาทต่อ กิโลกรัม ขณะที่ราคาจำหน่ายในท้องตลาด เกรดเอ อยู่ที่กิโลกรัมละ 25-30 บาท เกรดบี กิโลกรัมละ 15-20 บาท และเกรดซี กิโลกรัมละ 10 บาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าราคาลองกองในปีนี้ตกต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา จังหวัดนราธิวาส จึงเตรียมนำนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับการแปรรูปผลผลิตลองกอง มาแนะนำให้แก่กลุ่มเกษตรกร ทั้งการแปรรูปด้วยการแช่อิ่ม แยม และผลิตภัณฑ์ดูแลหน้า เพื่อส่งเสริมการแปรรูปหารายได้เพิ่มแก่ครอบครัว

       การแปรรูปลองกอง จึงน่าจะเป็นการสร้างตลาดให้แก่กลุ่มผู้ปลูกลองกองอีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะการแปรรูปแล้วส่งไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นการเสริมสร้างรายได้ และช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสให้มีการนำผลผลิตที่เลื่องชื่อของจังหวัดมาพลิกวิกฤตราคาที่ตกต่ำในอีกทางด้วย 
      
       จากการสำรวจตัวเลขการปลูกลองกองในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ของสำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส พบว่า ปลูกใน 13 อำเภอ จำนวน 40,458 ราย คิดเป็นเนื้อที่ทั้งสิ้น 75,881 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดได้ 66,172 ไร่ ขณะที่ส่วนลองกองขนานแท้ในตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ มีเพียง 15,219 ไร่ ให้ผลผลิตเพียง 14,360 ไร่ แต่ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ท้องถิ่นเป็นอย่างดี 


เเบบสอบถาม

เเบบสอบถาม